‘ความคิดสร้างสรรค์ จะพาเรา
ออกจากกรอบของเหตุผล เป็นทางลัด เป็นตัวเร่ง
เป็นเครื่องมือสร้าง Demand
ที่ลึกลงไปได้ถึงจิตใต้สำนึก’
สิ่งที่รีดเค้นประสิทธิภาพกลยุทธ์ใดๆ ได้สูงสุด
ล้วนมีความคิดสร้างสรรค์เป็นพาหนะนำพาไป
ด้วยการตลาดที่ตัวมันเองเต็มไปด้วยกลยุทธ์
แต่อีกด้านนึงมันคือ ศิลปะการจูงใจที่ทรงพลังที่สุดแขนงหนึ่ง
การจูงใจใดๆ ย่อมมีการสื่อสาร
เมื่อมีการสื่อสารเพื่อหวังผลใดๆ จะทางการตลาดหรือการอื่น
Branding ย่อมเกิดขึ้น
มันทำให้มนุษย์ออกจากขอบเขตการบริโภคเพื่อมีชีวิตรอด
‘มันทำให้เราซื้ออาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อจะได้มาซึ่งของเล่น’
‘มันทำให้เราอยากเข้าร้านกาแฟ เพื่อไปถ่ายรูป’
‘มันทำให้เราซื้อนาฬิกามาเก็บ แทนที่จะนำมันออกมาใส่ดูเวลา’
นั่นก็เพราะ ความคิดสร้างสรรค์ จะพาเรา
ออกจากกรอบของเหตุผล เป็นทางลัด เป็นตัวเร่ง
เป็นเครื่องมือสร้าง Demand
ที่ลึกลงไปได้ถึงจิตใต้สำนึก
ดั่งที่ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า ‘จินตนาการสำคัญกว่าความรู้’
ถ้าลองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ในทุกๆ สงครามที่ได้ชัยชนะ
ล้วนใช้ Creative Tactical เข้าไปสร้าง Momentum ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะ
ในวันกองทัพกรีก เผด็จศึกเมืองทรอย ด้วยการ
ใช้ม้าไม้โทรจันขนาดยักษ์ บรรจุทหารตัวเป็นๆ เข้ายึดเมืองจากภายใน
ในยุคล่าอาณานิคม อังกฤษพิชิตมหาอำนาจอย่างจีน
ที่ยิ่งใหญ่มากว่าพันปีด้วย ฝิ่น
ไม่ต่างจากที่ iPhone ทำลายคู่แข่ง
ที่เป็นหน้าจอแป้นพิมพ์อย่าง BlackBerry
ด้วยศักยภาพของการทำให้มนุษย์ใช้นิ้วสัมผัสจอ
สั่งการง่ายดุจร่ายมนต์
ประสบการณ์การใช้งานที่มอบอำนาจให้ผู้บริโภค
อย่างไม่เคยมีมาก่อน ได้รีดเค้นสารความสุขให้หลั่ง โดพามิน
ผสานกับ เอนโดรฟิน ครั้งแล้วครั้งเล่า
ความคิดสร้างสรรค์จาก 1 นวัตกรรม
สร้างโมเมนตัมของมนต์สะกดบนพื้นที่สี่เหลี่ยม
ถ้านิวเคลียร์เกิดจาก E = MC2
ฉะนั้น C x S = D
Disruption ก็มาจาก Creative x Strategy นั่นเอง
เขียนโดย : จักรวาลในกระติก